คิดว่าคงมีจำนวนไม่น้อยสำหรับหลายๆคน ที่ต้องการซื้อกล้องวีดีโอ ที่ต้องการเทคนิคในการเลือกซื้อกล้องวีดีโอ และหลายคนอาจจะทราบวิธีการเลือกซื้อกล้องแล้ว และอีกหลายๆคนคงจะยังไม่ทราบว่าจะเลือกซื้อกล้องวีดีโออย่างไรดี ในการเลือกซื้อกล้องวีดีโอนั้น หลายคนคงจะมองที่ ราคาถูก, ความจุของกล้องวีดีโอ, ขนาดของกล้อง, ฯลฯหรืออาจจะซื้อตามห้าง ที่ลดราคา แต่ส่วนใหญ่นั้น การเลือกกล้องวีดีโอของหลายๆ คนนั้น ย่อมหนีไม่พ้นในเรื่องของราคาถูก
ฉะนั้นแล้วเมื่อเราซื้อกล้องวีดีโอราคาถูกมาใช้งานนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าของจะไม่ดี ไม่มีคุณภาพเสียเลยทีเดียว ซึ่งแล้วก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อครับ แต่สำหรับคนที่ต้องการเอาไฟล์งานในกล้องมาใช้ทำอย่างอื่นนั้น เช่น การตัดต่อวีดีโอ หรือการอัพโหลดขึ้นเว็บ ซึ่งต้องการคุณภาพของไฟล์งานที่มีความละเอียดสูง ดังนั้นแล้วผมว่าเราควรที่จะทราบสเปคในการซื้อกล้องอย่างง่ายๆ ด้วยครับ
ในการเลือกซื้อกล้องวีดีโอนั้นเราจำเป็นจะต้องทราบเกี่ยวกับสเปคดังต่อไปนี้
1.ยี่ห้อ นั้นสำคัญยิ่ง
เราควรเลือกยี่ห้อในการที่จะซื้อกล้องวีดีโอครับ หากต้องการทราบว่ายี่ห้อไหนดีนั้น ให้เลือกยี่ห้อที่เราชอบน่าจะดีกว่า ว่าเราชอบยี่ห้ออะไร เพราะกล้องวีดีโอนั้นส่วนใหญ่การใช้งานน่าจะคล้ายๆกัน แต่แตกต่างกันที่ฟังก์ชันในการใช้งาน หรือเรียกง่ายๆ ว่า โหมดในการใช้งานนั่นเอง
แต่ในการเลือกยี่ห้อของกล้องวีดีโอนั้น แนะนำว่าให้ดูบริการหลังการขายเป็นหลัก มีเซอร์วิสที่ดี เมื่อยามกล้องเรามีปัญหาสามารถส่งเครมได้สะดวก ส่งเครมได้ไว ใช้งานได้ตามต้องการ เพราะหากเราเลือกยี่ห้อที่มีศูนย์บริการไม่มากแล้ว เวลาที่กล้องมีปัญหานั้น ย่อมลำบากครับ กว่าจะส่งเข้าศูนย์ได้ใช้เวลาในการส่งพัสดุพอสมควร หรืออาจจะมีแต่ศูนย์บริการในจังหวัดใหญ่ๆ ก็ยังใช้เวลานานอยู่ดี ลำบากเราส่งพัสดุเองด้วย ดีไม่ดี กล้องหายด้วย ยอมเสี่ยงไหมล่ะครับ
ยี่ห้อ Sony และ Canon นั้น น่าสนใจเพราะมีศูนย์บริการที่ค่อนข้างเยอะ Support เรื่องลูกค้าได้เร็ว Panasonic และ JVC นั้นก็เยียมหากมีศูนย์บริการใกล้บ้าน ซึ่งแล้วแต่เราสะดวกครับ
2. สเปคกล้องนั้น สำคัญไฉน?
เรื่องแรก คนมักจะมองที่ราคาถูกก่อนเป็นหลัก ต่อมาก็จะเลือกในเรื่องของขนาดตัวกล้องที่ต้องการพกพาสะดวก โดยมักจะไม่ทราบว่ากล้องที่ได้มานั้นมีคุณภาพอย่างไร ดังนั้นการที่เราจะเลือกซื้อกล้องวีดีโอนั้นควรดูปัจจัยเล็กๆน้อยๆง่ายๆ ดังนี้
- หากต้องการกล้องแบบความละเอียดสูงควรเลือกแบบ Full HD
- ความจุของกล้องวีดีโอ เป็น HD ควรจะดูว่า มีความจุกี่ GB และความจุยิ่งเยอะนั้นราคาน่าจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ โดยกล้องวีดีโอส่วนใหญ่จะมีความจุตั้งแต่ 10GB เป็นต้นไป
- LCD Monitor เป็นจอแอลซีดี ของกล้องวีดีโอ ควรเลือกตัวใหญ่จะดีกว่าครับ เพราะมองได้กว้างกว่า แต่ราคาก็ย่อมสูงอีกนั่นแหล่ะ ปัจจุบัน แอลซีดีของกล้องวีดีโอ ก็จะมีขนาด 2.7" และ 3.0"
- Image Sensor หรือ อิมเมจเซ็นเซอร์ ตัวนี้สำคัญที่ใช้ในการบันทึกวีดีโอ เพราะหาก อิมเมจเซ็นเซอร์ใหญ่จะบันทึกวีดีโอได้ความละเอียดสูง ภาพคมชัดมาก แต่หากขนาดของอิมเมจเซ็นเซอร์ที่มีขนาดเล็กนั้น ความละเอียดของกล้องไม่ค่อยจะสูงเท่าที่ควร และการดูอิมเมจเซ็นเซอร์นั้นต้องดูที่ขนาด เช่น 1/8" ย่อมเล็กกว่า 1/4" หรือ 1/6" ย่อมเล็กกว่า 1/2" แต่อิมเมจเซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่นั้นย่อมมีราคาแพงมากกว่าครับ ฉะนั้นหากจะเลือกในความละเอียดของภาพใช้ขนาด 1/4" ถือว่าค่อนข้างดีครับ ราคาปานกลาง เราจะดูความละเอียดของกล้องวีดีโอก็ต้องดูตัวนี้แหล่ะครับเป็นหลัก
- Microphone นั้นจะเป็นแบบ Stereo Condenser Microphone หรืออื่นๆ (ซึ่งตัวนี้ผมก็ยังไม่ทราบครับว่าตัวไหนดีกว่าตัวไหน เพราะส่วนใหญ่มันมีติดกล้องมาเลย หากของดีก็ย่อมมีราคาแพง ขออภัยเรื่องของ Microphone ด้วยครับ ^_^) - Lens เลนส์ ให้เราเลือกแบบ optical zoom สูงๆไว้ครับ เช่น 20x หรือ 30x หรือ 40x ยิ่งสูงเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะภาพจะโดนบันทึกเข้าที่ตัวกล้องโดยตรงครับ ส่วนในเรื่องของ Digital Zoom นั้นไม่ต้องสูงก็ได้ครับเพราะการใช้ Digital Zoom นั้นทำให้ภาพไม่สมจริง
- Video Recording Standards หรือเรียกง่ายๆว่า ไฟล์ที่บันทึกในกล้องวีดีโอ นั้นเน้นในเรื่องใช้งานง่ายนะครับ หลังจากที่เราถ่ายคลิปวีดีโอแล้ว สามารถที่จะนำไปใช้ในการตัดต่อได้เลย โดยที่ไม่ต้องผ่านการ Convert File หรือแปลงไฟล์ ก่อนนำไปใช้งาน เราควรเลือกกล้องที่รองรับนามสกุล MPEG, MP4, เป็นหลัก เพราะสามารถนำไปใช้ได้ทั้ง windows และ Mac ครับ และรองรับกับโปรแกรมตัดต่อทุกโปรแกรม และสามารถนำไปเขียนลงแผ่นได้เลย ส่วนนามสกุลอื่นๆ เช่น AVI, MOV, MOD นั้นให้เป็นรองครับเพราะไม่สะดวกในการใช้งานเท่าไหร่
- การเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ เน้น เชื่อมต่อแบบง่ายๆ ตอนนี้จะเป็น แบบ USB 2.0 กันหมดแล้ว หากมี TV OUT หรือ OUTPUT VIDEO ด้วยจะดีเป็นอย่างยิ่งเพราะเราสามารถนำไปเผยแพร่ออกจอทีวีได้เลย
- ฟังก์ชันของวีดีโอ มีความจำเป็นไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ใช้งาน ให้เลือกแบบมีหลายๆโหมดเข้าไว้ เช่น Smart Auto, P, Tv, Av, M, Cinema, Portrait, Sports, Night, Low light, Snow, Beach, Sunset, Spotlight, Fireworks
สุดท้ายนี่ก็หวังว่าคือข้อมูลง่ายๆในการพิจารณาซื้อกล้องวีดีโอที่ตามแบบบ้านๆที่เหมาะสมครับ
ในการเลือกซื้อกล้องวีดีโอนั้นเราจำเป็นจะต้องทราบเกี่ยวกับสเปคดังต่อไปนี้
1.ยี่ห้อ นั้นสำคัญยิ่ง
เราควรเลือกยี่ห้อในการที่จะซื้อกล้องวีดีโอครับ หากต้องการทราบว่ายี่ห้อไหนดีนั้น ให้เลือกยี่ห้อที่เราชอบน่าจะดีกว่า ว่าเราชอบยี่ห้ออะไร เพราะกล้องวีดีโอนั้นส่วนใหญ่การใช้งานน่าจะคล้ายๆกัน แต่แตกต่างกันที่ฟังก์ชันในการใช้งาน หรือเรียกง่ายๆ ว่า โหมดในการใช้งานนั่นเอง
แต่ในการเลือกยี่ห้อของกล้องวีดีโอนั้น แนะนำว่าให้ดูบริการหลังการขายเป็นหลัก มีเซอร์วิสที่ดี เมื่อยามกล้องเรามีปัญหาสามารถส่งเครมได้สะดวก ส่งเครมได้ไว ใช้งานได้ตามต้องการ เพราะหากเราเลือกยี่ห้อที่มีศูนย์บริการไม่มากแล้ว เวลาที่กล้องมีปัญหานั้น ย่อมลำบากครับ กว่าจะส่งเข้าศูนย์ได้ใช้เวลาในการส่งพัสดุพอสมควร หรืออาจจะมีแต่ศูนย์บริการในจังหวัดใหญ่ๆ ก็ยังใช้เวลานานอยู่ดี ลำบากเราส่งพัสดุเองด้วย ดีไม่ดี กล้องหายด้วย ยอมเสี่ยงไหมล่ะครับ
ยี่ห้อ Sony และ Canon นั้น น่าสนใจเพราะมีศูนย์บริการที่ค่อนข้างเยอะ Support เรื่องลูกค้าได้เร็ว Panasonic และ JVC นั้นก็เยียมหากมีศูนย์บริการใกล้บ้าน ซึ่งแล้วแต่เราสะดวกครับ
2. สเปคกล้องนั้น สำคัญไฉน?
เรื่องแรก คนมักจะมองที่ราคาถูกก่อนเป็นหลัก ต่อมาก็จะเลือกในเรื่องของขนาดตัวกล้องที่ต้องการพกพาสะดวก โดยมักจะไม่ทราบว่ากล้องที่ได้มานั้นมีคุณภาพอย่างไร ดังนั้นการที่เราจะเลือกซื้อกล้องวีดีโอนั้นควรดูปัจจัยเล็กๆน้อยๆง่ายๆ ดังนี้
- หากต้องการกล้องแบบความละเอียดสูงควรเลือกแบบ Full HD
- ความจุของกล้องวีดีโอ เป็น HD ควรจะดูว่า มีความจุกี่ GB และความจุยิ่งเยอะนั้นราคาน่าจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ โดยกล้องวีดีโอส่วนใหญ่จะมีความจุตั้งแต่ 10GB เป็นต้นไป
- LCD Monitor เป็นจอแอลซีดี ของกล้องวีดีโอ ควรเลือกตัวใหญ่จะดีกว่าครับ เพราะมองได้กว้างกว่า แต่ราคาก็ย่อมสูงอีกนั่นแหล่ะ ปัจจุบัน แอลซีดีของกล้องวีดีโอ ก็จะมีขนาด 2.7" และ 3.0"
- Image Sensor หรือ อิมเมจเซ็นเซอร์ ตัวนี้สำคัญที่ใช้ในการบันทึกวีดีโอ เพราะหาก อิมเมจเซ็นเซอร์ใหญ่จะบันทึกวีดีโอได้ความละเอียดสูง ภาพคมชัดมาก แต่หากขนาดของอิมเมจเซ็นเซอร์ที่มีขนาดเล็กนั้น ความละเอียดของกล้องไม่ค่อยจะสูงเท่าที่ควร และการดูอิมเมจเซ็นเซอร์นั้นต้องดูที่ขนาด เช่น 1/8" ย่อมเล็กกว่า 1/4" หรือ 1/6" ย่อมเล็กกว่า 1/2" แต่อิมเมจเซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่นั้นย่อมมีราคาแพงมากกว่าครับ ฉะนั้นหากจะเลือกในความละเอียดของภาพใช้ขนาด 1/4" ถือว่าค่อนข้างดีครับ ราคาปานกลาง เราจะดูความละเอียดของกล้องวีดีโอก็ต้องดูตัวนี้แหล่ะครับเป็นหลัก
- Microphone นั้นจะเป็นแบบ Stereo Condenser Microphone หรืออื่นๆ (ซึ่งตัวนี้ผมก็ยังไม่ทราบครับว่าตัวไหนดีกว่าตัวไหน เพราะส่วนใหญ่มันมีติดกล้องมาเลย หากของดีก็ย่อมมีราคาแพง ขออภัยเรื่องของ Microphone ด้วยครับ ^_^) - Lens เลนส์ ให้เราเลือกแบบ optical zoom สูงๆไว้ครับ เช่น 20x หรือ 30x หรือ 40x ยิ่งสูงเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะภาพจะโดนบันทึกเข้าที่ตัวกล้องโดยตรงครับ ส่วนในเรื่องของ Digital Zoom นั้นไม่ต้องสูงก็ได้ครับเพราะการใช้ Digital Zoom นั้นทำให้ภาพไม่สมจริง
- Video Recording Standards หรือเรียกง่ายๆว่า ไฟล์ที่บันทึกในกล้องวีดีโอ นั้นเน้นในเรื่องใช้งานง่ายนะครับ หลังจากที่เราถ่ายคลิปวีดีโอแล้ว สามารถที่จะนำไปใช้ในการตัดต่อได้เลย โดยที่ไม่ต้องผ่านการ Convert File หรือแปลงไฟล์ ก่อนนำไปใช้งาน เราควรเลือกกล้องที่รองรับนามสกุล MPEG, MP4, เป็นหลัก เพราะสามารถนำไปใช้ได้ทั้ง windows และ Mac ครับ และรองรับกับโปรแกรมตัดต่อทุกโปรแกรม และสามารถนำไปเขียนลงแผ่นได้เลย ส่วนนามสกุลอื่นๆ เช่น AVI, MOV, MOD นั้นให้เป็นรองครับเพราะไม่สะดวกในการใช้งานเท่าไหร่
- การเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ เน้น เชื่อมต่อแบบง่ายๆ ตอนนี้จะเป็น แบบ USB 2.0 กันหมดแล้ว หากมี TV OUT หรือ OUTPUT VIDEO ด้วยจะดีเป็นอย่างยิ่งเพราะเราสามารถนำไปเผยแพร่ออกจอทีวีได้เลย
- ฟังก์ชันของวีดีโอ มีความจำเป็นไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ใช้งาน ให้เลือกแบบมีหลายๆโหมดเข้าไว้ เช่น Smart Auto, P, Tv, Av, M, Cinema, Portrait, Sports, Night, Low light, Snow, Beach, Sunset, Spotlight, Fireworks
สุดท้ายนี่ก็หวังว่าคือข้อมูลง่ายๆในการพิจารณาซื้อกล้องวีดีโอที่ตามแบบบ้านๆที่เหมาะสมครับ
ความคิดเห็น
ปัจจุบัน ค่าย โซนี่ แคนนอน พานาโซนิค ก็เลิกผลิตกล้อง ที่ใช้สื่อบันทึก มินิดีวีดีแล้ว คงมีแต่ ฮาร์ดดิสก์ การ์ด แฟลชเมมโมรี่ คงมีแต่ยี่ห้อ ฮิตาชิ เท่านั้น ที่ผลิตกล้องแบบไฮบริด มีทั้ง ฮาร์ดดิสก์ แผ่นมินิบูลเรย์ การ์ด สามอย่างในตัวเดียวกัน จะเลือกถ่่ายบันทึกด้วยระบบใดก็ได้ หรือบันทึกด้วยฮาร์ดดิสก์หรือการ์ดแล้วไรท์ลงแผ่นมินิดีวีดีหรือแผ่นมินิบูลเรย์ก็ได้ ที่สำคัญราคาสูง และตลาดในประเทศไำทยให้ความนิยมน้อย