ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

6 ข้อ สำหรับการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือที่เหมาะสมสำหรับตนเอง

 การเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณที่คุณมี หากคุณไม่จำกัดงบประมาณคุณจะสามารถเลือกซื้อโทรศัพท์ที่ดีที่สุดได้ (แน่นอน ไม่มีอะไรที่ดีที่สุด หากมีการพัฒนาไม่หยุด) ดังนั้นหากต้องการอยากจะได้มือถือสักเครื่องที่เหมาะสมกับตนเองและสอดคล้องกับงบประมาณที่มี 5 ข้อนี้คือสิ่งที่ควรพิจารณา


 6 ข้อ สำหรับการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ

  1. กำหนดงบประมาณ
    ก่อนที่จะเริ่มค้นหาโทรศัพท์ตามที่ต้องการอย่างแรก คุณต้องกำหนดงบประมาณในการซื้อโทรศัพท์มือถือเสียก่อน เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญและช่วยคำนวณสิ่งที่คุณต้องการและยังช่วยค้นหาโทรศัพท์มือถือในราคาที่เหมาะสม
  2. กำหนดความต้องการของตนเอง
    เมื่อทราบงบประมาณแล้ว คุณต้องการอะไรจากโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นที่มีนอกเหนือจากการใช้งานแอปพลิเคชันพื้นฐาน อย่างโทรออก, รับสาย, Line, Facebook และอื่นๆ เช่น หากคุณต้องการกล้องที่ดีสำหรับการถ่ายภาพลงโซเซียลมีเดีย หรือหากคุณต้องการประสิทธิภาพของเครื่องอย่างเช่น เล่นเกมส์ หรือการใช้งานหลายแอปให้ไหลลื่นไม่สะดุด คุณจะสามารถค้นหาโทรศัพท์ที่มีความสามารถนี้เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณของคุณ แม้งบประมาณอาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และจงระวังกับดักประสิทธิภาพ เนื่องจากโทรศัพท์ที่คุณต้องการอาจจะต้องเพิ่มเงินเล็กน้อยเพื่อเพิ่มสเปค อย่างเช่น พื้นที่จัดเก็บ และ แรม เป็นต้น
  3. อ่านรีวิว
    การค้นหาและอ่านรีวิวของโทรศัพท์ที่คุณสนใจ และความพึงพอใจสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์อื่นๆ ก็ถือเป็นการหาข้อมูลของโทรศัพท์มือถือที่คุณต้องการได้
  4. ระบุแบรนด์และรุ่น
    หลังจากที่คุณกำหนดงบประมาณ และประสิทธิภาพของเครื่องโทรศัพท์มือถือได้แล้ว การกำหนดแบรนด์และรุ่นที่ต้องการ ก็สำคัญไม่แพ้กัน หากคุณชื่นชอบในแบรนด์ของ Apple นั้น ก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถเปลี่ยนใจคุณได้ แต่หากคุณมีงบประมาณที่จำกัด คุณอาจจะได้แบรนด์อื่นแทนที่คุณชื่นชอบ เพราะการแข่งขันในเรื่องราคาโทรศัพท์มือถือค่อนข้างสูง และบางครั้งแบรนด์ที่คุณไม่ชอบอาจจะได้มาด้วยความสอดคล้องของงบประมาณ และประสิทธิภาพของเครื่องที่ต้องการก็ได้
  5. ความคุ้มค่าและการรับประกัน
    พิจารณาความคุ้มค่าของโทรศัพท์ที่คุณจะต้องจ่าย การดูรายละเอียดการรับประกันของโทรศัพท์มือถือก็เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา หากค่ายไหนที่มีการรับประกันที่ยาวนานนั้นถือเป็นเรื่องดี แต่ควรศึกษาในเรื่องของเงื่อนไขการรับประกัน เช่น การรับประกันตัวเครื่อง การรับประกันจอ และอื่นๆเป็นต้น
  6. การสนับสนุน
    ตรวจสอบการสนับสนุนและการบริการหลังการขาย การอัปเกรดระบบปฏิบัติการ และประวัติการอัปเกรดของโทรศัพท์นั้นๆ

ข้อมูลเล็กน้อยในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ

  1. โทรศัพท์มือถือจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่
    1.1 โทรศัพท์มือถือเรือธง หรือ ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นโทรศัพท์รุ่นท็อปของแต่ละค่าย โทรศัพท์มือถือรุ่นเรือธงนี้จะมีราคาตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป หากราคาต่ำกว่านั้นอนุมานว่าโทรศัพท์เรือธงเริ่มตกรุ่น
    1.2 โทรศัพท์มือถือระดับกลาง เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีประสิทธิภาพรองลงมาจากเรือธงหรือรุ่นท็อป ซึ่งจะใช้ซิป CPU ในระดับกลาง หากโทรศัพท์ในรุ่นระดับกลาง บางค่ายใช้ซิปเดียวกับเรือธง แต่วัสดุในการประกอบอาจจะเป็นพลาสติก เพื่อลดค่าใช้จ่ายทำให้ราคาสู้ในระดับกลางได้ โทรศัพท์มือถือระดับกลาง ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 - 20,000 บาท
    1.3 โทรศัพท์มือถือราคาประหยัด เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีราคา 3,000 ขึ้นไป ความสามารถใช้งานก็อยู่ในระดับใช้งานแอปพลิเคชันได้ และถ่ายรูปได้ ในระดับที่พอทำได้ หากต้องการประสิทธิภาพเครื่องโทรศัพท์มือถือในราคาประหยัดอาจจะคาดหวังไม่ได้มากนัก โทรศัพท์ราคาประหยัดนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้โทรศัพท์มือถือ หรือ ร้านค้าสำหรับสแกนคิวอาร์โค๊ด เป็นต้น
  2. ระบบปฏิบัติการ
    - Android ระบบปฏิบัติการในโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่จะใช้ Andrioid เป็นพื้นฐาน ซึ่งนำมาครอบด้วยธีมของบริษัทมือถือแต่ล่ะค่ายซึ่งหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่โดยส่วนรวมใช้งานคล้ายกัน
    - iOS เป็นระบบปฏิบัติการของ APPLE ซึ่งจะมีแต่ iPhone เท่านั้นที่เป็นระบบปฏิบัติการนี้

สำหรับหากต้องการรายละเอียดข้อมูลในเรื่องของ CPU บนสมาร์ทโฟน ว่าต้องการใช้ CPU แบบไหน ราคาเท่าไหร่ สามารถติดตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ visitors-it.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ส่วนประกอบของเมนบอร์ด คอมพิวเตอร์ PC

ส่วนประกอบของเมนบอร์ด คอมพิวเตอร์ PC เมนบอร์ดเป็นแผงวงจรหลักที่สำคัญที่สุดของคอมพิวเตอร์ ดังนั้น จึงควรรู้จักตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างบนเมนบอร์ดเสียก่อน จึงจะสามารถประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ อุปกรณ์หลักที่สำคัญก็มีช็อกเกตสำหรับติดตั้งซีพียู, ช็อกเกตแรม และซิปเซตที่ทำหน้าที่ควบคุมอุปกรณ์ทั้งหมด หัวต่อและสล็อตสำหรับติดตั้งอุปกรณ์และการ์ดต่างๆ รวมไปถึงหัวต่อกับอุปกรณ์ภายนอกที่ต่อออกทางด้านหลังเครื่อง อุปกรณ์ที่ติดตั้งบนเมนบอร์ดได้แก่  1. ช็อกเกตซีพียู (CPU Socket) ช็อกเกตซีพียู เป็นตำแหน่งติดตั้งซีพียู โดยรูปแบบของช็อกเกตจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่นของซีพียู การซื้อเมนบอร์ดจะต้องตรวจสอบว่าต้องการใช้กับซีพียูยี่ห้อใดและรุ่นไหน หากซื้อซีพียูที่มีช็อกเกตไม่ตรงกับเมนบอร์ดจะไม่สามารถใช้งานได้ ปัจจุบันจะมีช็อกเกตที่ใช้งานบนเมนบอร์ดคือ Intel LGA 775,  Intel LGA 1150, Intel LGA 1151, Intel LGA1155 และ Intel LGA 2066 ใช้สำหรับซีพียู Intel ทั้งหมด แต่ต้องดูด้วยว่า ซีพียู อินเทลใดใช้ช็อกเกตเท่าไหร่ ส่วน AMD AM4, AMD sTRX4 และ AMD TR4 จะใช้สำหรับ CPU AMD เท่านั้นซึ่งก็เหมือนกับ...

map network drive ด้วย Command prompt

     บ่อยครั้งที่ต้องการใช้ทรัพยากร (เช่น โปรแกรม, ไฟล์เอกสารต่างๆ) จากเครื่องอื่นบนระบบเครือข่าย  หรืออาจจะเป็นเครื่อง Server องค์กร ที่ให้บริการ share file และมีความจำเป็นต้องใช้ไฟล์ร่วมกัน ดังนั้นการที่จะมาคอยใช้คำสั่ง ในการเข้าเครื่องอื่นนั้นค่อนข้างที่จะยุ่งยาก จึงต้องมีการ Map Drive ไว้เพื่อใช้งาน การ Map Drive บนระบบเครือข่ายนั้นก็ยังเป็นเรื่องยุ่งยากของ user ผู้ใช้งาน ซึ่งบางท่านอาจจะ Map Drive บนระบบเครือข่ายไม่เป็น ดังนั้นผมจึงมีวิธีการที่จะ Map Drive บนระบบเครือข่าย ผ่านคำสั่ง Command Prompt ของ window อย่างง่ายๆครับ สิ่งที่ต้องทราบก่อนทำการ Map Drive บนเครือข่าย 1. Drive ที่ต้องการจะ Map ควรตรวจดูใน My Computer ว่ามี Drive อะไรบ้าง และ Drive ที่แสดงใน My Computer นั้น อยู่ในสถานะไม่ว่าง จะไม่สามารถนำมา Map Drive ได้ จะได้เฉพาะที่ไม่มีโชว์เท่านั้น   ( Drive ที่มีใน My Computer จะไม่สามารถ นำมาเป็น Drive ที่เราต้องการจะ Map ได้ เช่น ในเครื่องคอมของเรามี Drive C และ Drive D ดังนั้น Drive ที่ว่างก็จะมีตั้งแต่ Drive E ไปจนถึง Drive Z เลยครับ ...

การสร้าง URL สั้นๆ เพื่อส่งไฟล์ให้เพื่อน

การสร้าง URL สั้นๆ เพื่อส่งไฟล์ให้เพื่อน การที่จะส่งไฟล์ให้เพื่อน เช่น ไฟล์รูป ไฟล์วีดีโอ หรือโปรแกรมอื่นๆ เวลาที่เราก็อปปี้ลิงค์จาก Google Drive นั้น มักจะเป็นลิงค์ที่ยาว หากเราทำการส่งลิงค์ใน Line เพื่อเปิดใน PC แล้วเพื่อนของคุณไม่ได้ติดตั้ง Line ใน PC ไว้ ต้องมานั่งพิมพ์ URL ยาวๆเอา ซึ่งไม่สะดวกสักเท่าไหร่นัก ดังนั้น เราควรทำลิงค์ให้สั้นๆ เพื่อให้เพื่อนของเราเปิดไฟล์ที่เราแชร์อย่างง่ายดาย ตัวอย่าง เช่น เราต้องการส่ง Link ของ ไฟล์ที่เราแชร์ใน Google drive 1. ให้เราวางข้อมูลที่เราต้องการแชร์  ใน Google ก่อน จากนั้นทำการแชร์ไฟล์ และเปลี่ยนสิทธิ์ในการแชร์ให้เรียบร้อย ดังภาพ 2. ให้เข้าเว็บ  https://www.shorturl.at/  แล้วทำการวางลิงค์ที่เราก็อปปี้มา แล้วกดปุ่ม Shorten URL ครับ จากนั้นก็ส่งลิงค์ให้เพื่อนได้เลยครับ