เล่าจากประสบการณ์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้รับ Notebook มาเครื่องนึง แจ้งว่าเข้าใช้งานวินโดว์ไม่ได้ ผมจึงลองเช็คดูพบว่าอาการเกิดจากฮาร์ดดิสก์ที่ Detect เจอบ้าง ไม่เจอบ้าง นั่นก็คือสัญญาณที่เตือนอันตรายที่สุดสำหรับข้อมูลในเครื่อง Notebook เครื่องนั้น ผมได้แจ้งกับเจ้าของ Notebook เครื่องนั้นว่า กรณีอาการแบบที่เป็นนี้วิเคราะห์ได้สองอย่างคือ วินโดว์เสีย และ ฮาร์ดดิสก์เสีย (ไอ้เจ้า window เสียยังพอรับได้ แต่ไอ้เจ้าฮาร์ดดิสก์เสียนี่สิ ข้อมูลทั้งชีวิตเลยนะนั่น) ซึ่งเคสนี้บอกเลย หากผมเป็นเจ้าของเครื่อง Notebook เครื่องนี้ ก็คงหนักใจไม่แพ้กัน ผมจึงได้รับปากกับเจ้าของเครื่องว่าจะลองหาวิธีเอาข้อมูลออก และโชคก็เข้าข้างอยู่บ้าง ที่ถอดฮาร์ดดิสก์ออกมาใส่กับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น สามารถ Detect เจอ drive D และเอาข้อมูลออกมาได้ และข้อมูลจาก Drive C พังเป็นที่เรียบร้อยแล้วไม่สามารถเอาข้อมูลออกมาได้ ซึ่งผมเองก็บอกได้ว่าทำได้ที่สุดเพียงเท่านี บทลงเอยสุดท้ายเจ้าของเครื่องขอบคุณผมเป็นอย่างมากเพราะข้อมูลใน Drive C ไม่มีอะไรนอกเสียจาก Windows และโปรแกรมที่ใช้งานต่างๆ ผมเองก็ยินดีกับเจ้าของเครื่องด้วยครับ
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ผมคิดว่าคงจะมีจำนวนไม่น้อยที่เจอเหตุการณ์เช่นนี้ การป้องกันโดยส่วนใหญ่มักจะซื้อ Flash drive มาสำรองข้อมูล External HDD มาสำรองข้อมูล แน่นอนว่าอุปกรณ์พวกนี้ก็มีโอกาสเสียเช่นกัน แต่เชื่อผมไหมว่า อุปกรณ์ที่คุณซื้อมาไว้สำรองข้อมูล มันไม่ได้สำรองข้อมูลและจะถูกใช้งานบ่อยเนื่องจากความสะดวกในการพกพา ท้ายสุดอุปกรณ์พวกนี้กลับพังไวกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้งานอยู่เพราะการพกพานั่นเอง แต่ก็ยังดีกว่าไม่ป้องกันสินะครับ ว่าไหม ?
แล้วจะทำยังไงดี ?
หนึ่งในทางเลือกของการป้องกันข้อมูลหาย นอกจาก Flash drive หรือ External drive นั่นก็คือ "Cloud Storage" คือ การเก็บไฟล์ไว้บนอากาศ ผมเองก็สงสัยเช่นกันว่าจะเก็บไว้ยังไง โยนข้อมูลขึ้นอากาศเหรอ มันมีวิธีการอย่างนี้ด้วยเหรอ
"Cloud Storage" คือ การเก็บไฟล์ไว้บนอากาศ หรือการฝากไฟล์ไว้ที่เซิร์ฟเวอร์บริการฝากไฟล์ และสามารถใช้งานไฟล์ได้ทุกเมื่อ เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าอินเตอร์เน็ต ยกตัวอย่าง เช่น
อีเมลล์ เราสามารถที่จะอัพไฟล์เอกสารใส่อีเมลล์ของเราและส่งไปยังอีกอีเมลนึงที่เป็นของเรา เวลาจะเรียกใช้งานก็เพียงแค่เปิดอีเมลล์และดาวน์โหลดไฟล์นั้นๆมาใช้งาน แต่การโหลดไฟล์มาใช้งาน ไฟล์ต้นฉบับที่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์จะไม่มีการแก้ไขใดๆ เมื่อเราโหลดไฟล์มาใช้งาน
บริการ Cloud Storage ที่ผมใช้บ่อย คือ Dropbox และ google drive เป็นบริการฝากไฟล์ที่น่าใช้ในปัจจุบัน ที่สำคัญใช้งานฟรี ในส่วนของ Dropbox ได้พื้นที่ 5 GB และ Google Drive ได้ถึง 20 GB และเหมาะที่จะเก็บไฟล์งานสำคัญๆของคุณได้มากเลยทีเดียวครับ
Google Drive บริการที่ไม่ควรมองข้าม
เพียงแค่มี Gmail Account ก็สามารถใช้งานพื้นที่ฟรีได้ถึง 20 GB เลยทีเดียว สามารถส่งไฟล์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่หากันได้อย่างสะดวก และเก็บไฟล์ข้อมูลที่สำคัญของคุณได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องกลัวว่าฮาร์ดดิสก์จะพัง ไม่ต้องสาย USB เข้า-ออก ไม่ต้องพกพาอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ก็สามารถนำมาใช้งานได้แล้ว
การใช้งาน Google Drive
การใช้ Google Drive ในการสำรองนั้น ต้อง Download Google Drive มาติดตั้งในเครื่องที่เราใช้เป็นประจำ หรือเครื่องที่มีข้อมูลสำคัญของเราก่อน จากนั้นค่อยทำการอัพโหลดไฟล์ขึ้น Google Drive
ทำการ Download Google Drive ที่ลิงค์ --> http://www.google.co.th/intl/th/drive/download/ ทำการติดตั้งให้เรียบร้อย
จากนั้นเข้าใช้งาน Google Drive ด้วยการ Login บริการด้วย Gmail Account
จะเข้าสู่หน้าจอใช้งาน ให้เราคลิ๊กถัดไป และจนมาถึงหน้าจอที่สอง ให้เราคลิ๊กเริ่มต้นการซิงค์เลยครับ เครื่องจะทำการซิงค์ไฟล์อยุ่บน Google Drive ลงมาเครื่องเรา
สำหรับผู้ที่เริ่มใช้งาน Google Drive จะไม่มีไฟล์อะไรให้ซิงค์หรอกครับ เนื่องจากยังไม่เคยใช้งานเลย แต่หากผู้ที่เคยใช้งานอยู่แล้ว เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง Google Drive ในเครื่องเรา จะทำการ Download File จาก Google Drive ลงมาใส่เครื่องเรา และหากเราก็อบปี้ไฟล์ไปวางไว้ในโฟลเดอร์ของ Google Drive เครื่องก็จะทำการ Upload File ขึ้น Google Drive โดยอัตโนมัติ
การลบไฟล์ในเครื่องของเรา เครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะซิงค์ให้ลบไฟล์จาก Google drive ด้วยนะครับ ยกเว้นแต่จะลบตอนที่เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ได้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต การลบไฟล์นั้นก็ไม่มีผล และเมื่อมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะตรวจสอบว่ามีไฟล์หายไป แล้วโหลดไฟล์นั้นมาทดแทน
ต้องการใช้ Google Drive ในการสำรองข้อมูล
เพียงแค่ย้ายข้อมุลมาไว้ใน Google Drive เครื่องก็จะทำการ Upload File ขึ้นสู่ Google drive โดยอัตโนมัติ เมื่อเรามีการแก้ไขไฟล์ ไฟล์ที่ Google Drive ก็จะแก้ไขตามไปด้วย เพียงเท่านี้ ก็หายห่วงจากเรื่องฮาร์ดดิสก์ในเครื่องคอมพิวเตอร์พังแล้วครับ
สำหรับบทความนี้ จริงแล้วยังมีต่ออีก แต่ผมเกรงว่าจะอ่านกันจนเบื่อเสียก่อน เดี๋ยวต่อกันที่บทความถัดไปครับ วันนี้ขอพักก่อน
ย้ำนะครับ
การลบไฟล์ในเครื่องของเรา เครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะซิงค์ให้ลบไฟล์จาก Google drive ด้วยนะครับ ยกเว้นแต่จะลบตอนที่เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ได้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต การลบไฟล์นั้นก็ไม่มีผล และเมื่อมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต เครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะตรวจสอบว่ามีไฟล์หายไป แล้วโหลดไฟล์นั้นมาทดแทน
ขอขอบคุณรูปภาพและสามารถอ่านการใช้งาน Google Drive ฉบับเต็มได้จาก หน่วยเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ความคิดเห็น