เสียงทำให้ภาพยนมีอรรถรสในการชมมากขึ้น และบ่งบอกถึงอารมณ์และความรู้สึกในขณะนั้น เสียงจึงเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ในการตัดต่อภาพยนต์
รู้จักกับคลิปเสียง
โปรแกรม Premiere Pro ได้จัดเครื่องมือสำหรับการทำงานกับคลิปเสียงไว้อย่างมาก เพื่อให้เราสามารถเพิ่มเติมและปรับแต่งคลิปเสียงได้ตามต้องการ
การใส่เสียงบนพาเนล Time Line
การวางคลิปเสียงบน Time Line จะเหมือนกันกับการวางคลิปวีดีโอ โดยที่คลิปเสียงจะวางไว้บนแทร็กออดิโอ (Audio Track) ซึ่งมีไว้สำหรับวางคลิปเสียงโดยเฉพาะ
1. หลังจากที่เรานำไฟล์เสียงมาไว้บนพาเนลโปรเจ็กต์แล้ว ให้เราลากคลิปเสียงมาวางไว้บนพาเนล Time Line
2. หลังจากนั้นเราก็สามารถตัดต่อคลิปได้ตามปกติเหมือนกับการตัดต่อวีดีโอ
จากรูปจะแสดงให้เห็นว่าสีน้ำเงินจะเป็นคลิปเสียงที่มากับวีดีโอ ส่วนคลิปสีแดงเป็นคลิปที่นำเข้ามาเพื่อใช้งาน
การปรับระดับเสียงบนพาเนล Time Line
หากคลิปเสียงที่เรานำเข้ามานั้น มีระดับความดังของเสียงดังไปหรือเบาเกินไป เราสามารถปรับให้ได้ระดับความดังที่พอดีตามต้องการได้
1. คลิกที่ แทร็กออดิโอ
จะแสดงเมนูให้เลือก Show Clip Keyframes สังเกตว่าจะมีเส้นสีเหลืองอยู่ตรงกลางคลิป
2.คลิกที่คลิปแล้วคลิกขวาและเลือก Volume --> Level
3. ใช้เครื่องมือ (Pen Tools) ปรับระดับเสียง โดยคลิกที่เส้นสีเหลืองค้างไว้แล้วปรับเลื่อนขึ้นลง โดยเลื่อนขึ้นจะทำให้เสียงดังขึ้น เลื่อนลงจะทำให้เสียงลดลง
ใช้เครื่องมือปรับระดับเสียงโดยคลิ๊กค้างไว้ที่เส้นสีเหลืองแล้วเลื่อนขึ้นลง
หน้าถัดไป : 15. ตัวอย่างการใช้งานเลเยอร์
ก่อนหน้า : 13. เปลี่ยนฉากของคลิปด้วยทรานสิชัน
รู้จักกับคลิปเสียง
โปรแกรม Premiere Pro ได้จัดเครื่องมือสำหรับการทำงานกับคลิปเสียงไว้อย่างมาก เพื่อให้เราสามารถเพิ่มเติมและปรับแต่งคลิปเสียงได้ตามต้องการ
- คุณสมบัติของเสียงในระบบดิจิตอล เสียงโดยทั่วไปจะเกิดการสั่นสะเทือนจากวัตถุ แล้วส่งแรงสั่นสะเทือนนั้นออกมาตามตัวนำเสียง เช่น อากาศ มากระทบที่หูของเราทำให้ได้ยินเสียงเหล่านั้น โดยจะเรียกเสียงในรูปแบบนี้ว่า “เสียงในระบบอนาล็อก” แต่สำหรับเสียงในระบบดิจิตอลเกิดจากการเปลี่ยนแปลงเสียงในระบบอนาล็อกให้กลายเป็นตัวเลขบันทึกข้อมูล ซึ่งคุณภาพองเสียงในระบบดิจิตอลนั้นจะถูกกำหนดโดย 2 ค่าดังนี้ 1. Sample Rate เป็นอัตราความละเอียดของเสียงในการแปลงจากเสียงในระบบอนาล็อกให้กลายมาเป็นสัญญาณเสียงในระบบดิจิตอลใน 1 วินาที โดยมีหน่วยเป็น KHz เสียงที่มีคุณภาพดีจะต้องมีค่า Sample Rate สูงและเป็นที่แน่นอนว่าขนาดของไฟล์จะต้องใหญ่ตามไปด้วย 2.Bit Depth เป็นจำนวนข้อมูลที่ใช้ในการแปลงหรือเข้ารหัสเสียง ยิ่งมีค่ามากเท่าไหร่ก็ย่อมมีความเทียงตรงของเสียงมากเท่านั้น นั่นคือจะทำให้เสียงไม่ผิดเพี้ยนและคมชัด ชนิดของเสียงใน Premiere Pro
ชนิดของเสียงในโปรแกรม Premiere Pro มี 2 รูปแบบใหญ่ๆดังต่อไปนี้ คลิปเสียงธรรมดา เป็นคลิปที่มีเฉพาะเสียงเท่านั้น คลิปเสียงประกอบวีดีโอ เป็นคลิปเสียงที่มาพร้อมกับคลิปวีดีโอ โดยจะแสดงไปพร้อมกันอย่างสอดคล้องและต่อเนื่อง
การใส่เสียง ในโปรแกรม Premiere Pro เราสามารถเพิ่มคลิปเสียงเข้าไปในโปรเจ็กต์ได้เหมือนกับการปรับแต่งคลิปวีดีโอทั้งหมดอีกด้วย โดยการImport ไฟล์เสียงจะทำเช่นเดียวกับคลิปวีดีโอ
การใส่เสียงบนพาเนล Time Line
การวางคลิปเสียงบน Time Line จะเหมือนกันกับการวางคลิปวีดีโอ โดยที่คลิปเสียงจะวางไว้บนแทร็กออดิโอ (Audio Track) ซึ่งมีไว้สำหรับวางคลิปเสียงโดยเฉพาะ
1. หลังจากที่เรานำไฟล์เสียงมาไว้บนพาเนลโปรเจ็กต์แล้ว ให้เราลากคลิปเสียงมาวางไว้บนพาเนล Time Line
2. หลังจากนั้นเราก็สามารถตัดต่อคลิปได้ตามปกติเหมือนกับการตัดต่อวีดีโอ
จากรูปจะแสดงให้เห็นว่าสีน้ำเงินจะเป็นคลิปเสียงที่มากับวีดีโอ ส่วนคลิปสีแดงเป็นคลิปที่นำเข้ามาเพื่อใช้งาน
การปรับระดับเสียงบนพาเนล Time Line
หากคลิปเสียงที่เรานำเข้ามานั้น มีระดับความดังของเสียงดังไปหรือเบาเกินไป เราสามารถปรับให้ได้ระดับความดังที่พอดีตามต้องการได้
1. คลิกที่ แทร็กออดิโอ
จะแสดงเมนูให้เลือก Show Clip Keyframes สังเกตว่าจะมีเส้นสีเหลืองอยู่ตรงกลางคลิป
2.คลิกที่คลิปแล้วคลิกขวาและเลือก Volume --> Level
3. ใช้เครื่องมือ (Pen Tools) ปรับระดับเสียง โดยคลิกที่เส้นสีเหลืองค้างไว้แล้วปรับเลื่อนขึ้นลง โดยเลื่อนขึ้นจะทำให้เสียงดังขึ้น เลื่อนลงจะทำให้เสียงลดลง
ใช้เครื่องมือปรับระดับเสียงโดยคลิ๊กค้างไว้ที่เส้นสีเหลืองแล้วเลื่อนขึ้นลง
หน้าถัดไป : 15. ตัวอย่างการใช้งานเลเยอร์
ก่อนหน้า : 13. เปลี่ยนฉากของคลิปด้วยทรานสิชัน
ความคิดเห็น